สครับผิวขาว คืออะไร 9 วิธีบำรุง เผยผิวกระจ่างใส สวยดูเป็นธรรมชาติ มีออร่า
สครับผิวขาว
9 วิธีสครับผิวขาว ขัดผิวหมอง เผยผิวกระจ่างใสมีออร่า
ใครที่อยากมีผิวออร่า กระจ่างใส การใช้สครับผิวขาว ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนนิยมใช้ เพราะนอกจากจะช่วยขจัดผิวหมองคล้ำแล้ว ยังทำให้ผิวของเรานุ่มลื่นขึ้นอีกด้วย
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสครับผิวขาวอันไหนเหมาะกับผิวของเราบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
รวมทุกหัวข้อเกี่ยวกับสครับผิวขาว
- สครับผิวขาวคืออะไร อันตรายหรือไม่
- ทำไมคนเราต้องสครับผิวขาว
- สครับผิวขาวมีแบบไหนบ้าง
- เลือกสครับผิวขาวอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
- การเตรียมผิวก่อนสครับผิวขาว
- วิธีสครับผิวขาวจากเกลือธรรมชาติ
- วิธีสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
- วิธีสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
- วิธีสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
- วิธีสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
- วิธีสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
- วิธีสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ต
- วิธีสครับผิวขาวด้วยผงถ่าน
- วิธีสครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
- การบำรุงผิวหลังการสครับผิวขาว
- สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการสครับผิวขาว
สครับผิวขาวคืออะไร อันตรายหรือไม่
สครับผิว (Body Scrub) คือกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วและสะสมอยู่บนชั้นผิวหนังออกไป ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหยาบเล็กน้อย เช่น เกลือ น้ำตาล กากกาแฟ ข้าวโอ๊ต หรือเม็ดบีดส์ที่อยู่ในสครับสำเร็จรูป มาขัดวนเบา ๆ บนผิว
การสครับผิวขาวจึงหมายถึง การผลัดเซลล์ผิวเก่าออกเพื่อให้ผิวที่ดูหมองคล้ำ หรือหยาบกร้าน กลับมาดูกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากผิวใหม่ที่อยู่ข้างใต้มีความเรียบเนียนและสะท้อนแสงได้ดีกว่า ทำให้ดู “ขาวใส” ขึ้นทันทีหลังทำการ สครับผิวขาว
นอกจากนี้ สครับผิวขาวจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสแล้วยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก
- ผิวรับการบำรุงจากโลชั่นหรือเซรั่มได้ดียิ่งขึ้น
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ลดการเกิดสิวเสี้ยน สิวที่หลัง และสิวอุดตันบางประเภท
สครับผิวขาวอันตรายหรือไม่
โดยหลักการแล้ว การสครับผิวขาวไม่ใช่เรื่องอันตราย หากทำอย่างถูกวิธีและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว แต่ถ้าทำผิดวิธีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีมาตรฐานก็อาจทำให้เกิดผลเสียได้
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นถ้าสครับผิวขาวไม่ถูกวิธี
1.ผิวแห้งตึงและลอก สครับผิวขาวบ่อยเกินไป (เกิน 3 ครั้ง/สัปดาห์) จะทำให้ชั้นไขมันธรรมชาติของผิวถูกทำลาย
2.การระคายเคือง ใช้เม็ดสครับที่หยาบเกินไปหรือขัดแรงจนเกินไป อาจทำให้ผิวถลอกหรือเกิดรอยแดง
3.ผิวไวต่อแสงแดด หลังสครับผิวใหม่ ๆ ผิวของเราจะบอบบาง หากไม่ทาครีมกันแดดอาจทำให้ผิวคล้ำเสียยิ่งกว่าเดิม
4.แพ้สารเคมี สครับผิวขาวที่มีสารฟอกขาวหรือสารต้องห้าม หากใช้กับผิวอาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง หรือสะสมจนเกิดอันตรายในระยะยาว
ทำไมคนเราต้องสครับผิวขาว
สครับผิวขาว ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนสีผิวโดยตรง แต่เป็นการสื่อถึงผลลัพธ์ที่ผิวดู กระจ่างใส เรียบเนียน และมีสุขภาพดีขึ้น หลังการขัดผิว เซลล์เก่าที่หมองคล้ำถูกกำจัดออก จึงทำให้ผิวโดยรวมดู “ขาวใสขึ้น” เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนสครับผิว
ทำไมต้องสครับผิวขาว
1.สครับผิวขาวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า
เมื่อเวลาผ่านไป เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะสะสมอยู่บนชั้นผิว ทำให้ผิวดูหมอง ไม่สม่ำเสมอ การสครับผิวขาวช่วยให้เซลล์เก่าเหล่านี้หลุดออก ผิวจึงดูสดใสขึ้น
2.สครับผิวขาวทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสดใส
หลังการสครับผิวขาว ผิวใหม่ที่อยู่ข้างใต้จะเผยออกมา ซึ่งโดยธรรมชาติมีความเรียบ ลื่น และสะท้อนแสงได้ดีกว่า จึงทำให้ผิวดูใสขึ้น
3.สครับผิวขาวช่วยให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อไม่มีเซลล์ผิวเก่าปกปิดอยู่ ครีมบำรุง โลชั่น หรือเซรั่มที่ทาหลังสครับผิวขาว จะซึมซับเข้าสู่ผิวได้ง่ายและเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
4.สครับผิวขาวกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
การนวดและขัดผิวอย่างเบามือสามารถช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี
5.สครับผิวขาวลดการเกิดปัญหาผิว
เช่น สิวเสี้ยนหรือสิวอุดตันที่เกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวเก่า การสครับช่วยลดการอุดตันเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง
สครับผิวขาวมีแบบไหนบ้าง
การสครับผิวขาวมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบใช้หลักการผลัดเซลล์ผิวที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1.สครับผิวขาวจากธรรมชาติ
สครับผิวขาวโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย เช่น
• น้ำตาล/เกลือ เนื้อหยาบช่วยผลัดเซลล์ผิวออกได้ดี เหมาะสำหรับผิวปกติ-ผิวมัน
• กากกาแฟ มีสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมช่วยลดความหมองคล้ำ
• มะขามเปียก ขมิ้น นมสด สูตรดั้งเดิมของคนไทยที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
• ข้าวโอ๊ต/โยเกิร์ต เนื้ออ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง
2.สครับผิวขาวสำเร็จรูป (ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด)
ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสูตรโดยผู้ผลิต มีหลายรูปแบบ เช่น ครีมเจล หรือเนื้อสครับผสมเม็ดบีดส์
• บางสูตรผสม วิตามินซี วิตามินอี เพื่อช่วยบำรุงผิว
• บางสูตรมี AHA, BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
• มีให้เลือกตามสภาพผิว เช่น สำหรับผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย
3.สครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
นิยมในสปาและการนวดบำบัด เช่น
• ขมิ้น ไพล ว่านนางคำ
• เปลือกมะขาม เปลือกส้ม
• ผงถ่านสมุนไพร
4.สครับผิวขาวด้วยเคมี (Chemical Exfoliation)
ไม่ได้ใช้เม็ดสครับขัด แต่ใช้กรดผลไม้หรือสารสกัดทางเคมีอ่อน ๆ เช่น
• AHA (Alpha Hydroxy Acids) จากผลไม้ ช่วยละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
• BHA (Beta Hydroxy Acids) ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
• Enzyme Scrub จากเอนไซม์ผลไม้ เช่น มะละกอ สับปะรด
5.การสครับผิวขาวในคลินิกหรือสปา
เช่น การทำ Body Polish, Body Peeling หรือการใช้เครื่องมือร่วมกับผลิตภัณฑ์เฉพาะ
• เน้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
• มักทำควบคู่กับการนวดและการบำรุง
เลือกสครับผิวขาวอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
การรู้จัก เลือกสครับผิวขาวให้เหมาะกับสภาพผิว จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้การสครับผิวขาวเกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เป็นอันตราย และตอบโจทย์การดูแลผิวของเราอย่างแท้จริง
1.ผิวมัน
ลักษณะผิว ผลิตน้ำมันออกมามาก มักมีปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง
สครับผิวขาวที่เหมาะสม
• เลือกสครับผิวขาวที่มีส่วนผสมช่วยควบคุมความมัน เช่น กากกาแฟ เกลือ หรือน้ำตาลผสมเลมอน
• เลือกเนื้อสครับผิวขาวที่มีเม็ดละเอียด ไม่มันเหนอะหนะ
• สูตรที่มี AHA, BHA อ่อน ๆ จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนได้ดี
ข้อควรระวัง ไม่ควรเลือกสครับผิวขาวที่มีน้ำมันเข้มข้นเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวมันมากกว่าเดิม
2.ผิวแห้ง
ลักษณะผิว ขาดน้ำ แห้งลอกง่าย ผิวหยาบกร้าน และมักรู้สึกตึง
สครับผิวขาวที่เหมาะสม
• ใช้สครับผิวขาวที่มีเม็ดเล็ก เนื้อละเอียด เช่น ข้าวโอ๊ตบด น้ำตาลผสมโยเกิร์ต หรือมะขามเปียกผสมนมสด
• ควรเลือกสูตรที่มีสารบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น น้ำผึ้ง นมสด หรือเชียบัตเตอร์
• ใช้สครับผิวขาวแบบครีมหรือเจล ที่ให้ความชุ่มชื้นแทนการใช้เกลือที่อาจทำให้ผิวแห้งเพิ่ม
ข้อควรระวัง ไม่ควรสครับบ่อยเกินไป ควรทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทันทีหลังสครับ
3.ผิวเปลือกส้ม
ลักษณะผิว มีปัญหาเซลลูไลท์ ผิวไม่เรียบเนียน มักพบที่ต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง
สครับผิวขาวที่เหมาะสม
• เลือกสครับผิวขาวที่มีเนื้อสัมผัสหยาบขึ้นเล็กน้อย เช่น กากกาแฟผสมน้ำมันมะกอก หรือเกลือสครับสมุนไพร
• สูตรที่มีคาเฟอีนหรือสารสกัดจากสาหร่าย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดการสะสมของไขมันใต้ผิว
• ควรนวดวนเป็นวงกลมและกดเบา ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียน
ข้อควรระวัง ไม่ควรขัดแรงเกินไป เพราะจะทำให้เส้นเลือดฝอยแตกหรือเกิดรอยช้ำได้
4.ผิวบอบบาง แพ้ง่าย
ลักษณะผิว ระคายเคืองง่าย แพ้สารเคมีหรือการเสียดสี มีผื่นแดงได้บ่อย
สครับผิวขาวที่เหมาะสม
• เลือกสครับผิวขาวที่มีเม็ดเล็กมากหรือสครับเอนไซม์ผลไม้ (เช่น มะละกอ, สับปะรด) ที่อ่อนโยนต่อผิว
• สูตรธรรมชาติที่เหมาะ เช่น ข้าวโอ๊ตผสมโยเกิร์ต หรือแตงกวาผสมน้ำผึ้ง
• ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย (Hypoallergenic, Fragrance-free)
ข้อควรระวัง ทำสครับผิวขาวไม่เกิน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรทดสอบกับผิวบริเวณเล็ก ๆ ก่อนใช้ทั่วร่างกาย
การเตรียมผิวก่อนสครับผิวขาว
การสครับผิวขาวไม่ใช่แค่การหยิบสครับมาขัดทันที แต่การเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการสครับผิวขาวถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะช่วยให้การขัดผิวได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ลดการระคายเคือง และทำให้ผิวพร้อมสำหรับการบำรุง
1.ทำความสะอาดผิวให้สะอาด
ก่อนสครับผิวขาว ควรอาบน้ำล้างเหงื่อ ฝุ่น และสิ่งสกปรกออกจากผิวก่อน เพื่อป้องกันการเสียดสีระหว่างสิ่งสกปรกกับเม็ดสครับที่อาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบ
2.เปิดรูขุมขนด้วยน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่นหรือนวดตัวด้วยผ้าขนหนูอุ่น ๆ จะช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้เม็ดสครับสามารถทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่ายกว่า
3.เลือกสครับผิวขาวให้เหมาะกับสภาพผิว
• ผิวมัน เหมาะกับสครับที่ช่วยลดความมัน เช่น กากกาแฟหรือเกลือ
• ผิวแห้ง ควรใช้สครับที่มีสารให้ความชุ่มชื้น เช่น น้ำผึ้ง โยเกิร์ต
• ผิวเปลือกส้ม เลือกสครับที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน เช่น กากกาแฟ น้ำมันมะกอก
• ผิวบอบบาง ใช้สครับเนื้อละเอียดหรือสูตรอ่อนโยน เช่น ข้าวโอ๊ตผสมโยเกิร์ต
4.ทดสอบการแพ้ก่อนใช้สครับผิวขาว
ควรทดสอบผลิตภัณฑ์สครับผิวขาวกับผิวบริเวณท้องแขนหรือข้อพับก่อนใช้งานจริง ทิ้งไว้ 10-15 นาที หากไม่เกิดผื่นแดงหรือคัน จึงสามารถใช้ได้ทั่วร่างกาย
5.เตรียมเวลาและสภาพแวดล้อม
ควรสครับผิวขาวในช่วงที่เรามีเวลาเพียงพอ ไม่ควรรีบ เพื่อให้สามารถขัดผิวได้อย่างเบามือและทั่วถึง เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายระหว่างการดูแลผิว
วิธีสครับผิวขาวจากเกลือธรรมชาติ
เกลือธรรมชาติถือเป็นวัตถุดิบที่นิยมในการใช้สครับผิวขาวมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่เป็นเม็ดละเอียด สามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเซลล์ผิวเก่าหลุดออก ผิวใหม่ที่ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสจะเผยออกมา
เกลือยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวหยาบกร้าน
วิธีการสครับผิวขาวด้วยเกลือธรรมชาติ
ส่วนผสมที่ใช้ในการสครับผิวขาวจากเกลือ
- เกลือป่นละเอียด 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1-2 ช้อนโต๊ะ (เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น)
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (เพื่อช่วยลดการระคายเคืองและบำรุงผิว)
ขั้นตอนการทำสครับผิวขาวจากเกลือ
1.ผสมส่วนผสม - นำเกลือ น้ำมัน และน้ำผึ้งมาคลุกเคล้าให้เข้ากันจนได้เนื้อสครับ
2.ทำความสะอาดผิว - อาบน้ำหรือล้างผิวให้สะอาด เพื่อขจัดเหงื่อและสิ่งสกปรก
3.สครับผิว - นำส่วนผสมมาทาบริเวณผิวที่ต้องการสครับ ขัดวนเบา ๆ เป็นวงกลม ประมาณ 5-10 นาที โดยเน้นบริเวณที่ผิวหยาบกร้าน เช่น ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม
4.ล้างออก - ใช้น้ำสะอาดล้างออกให้หมด
5.บำรุงผิว - ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นทันที
ข้อดีของการสครับผิวขาวด้วยเกลือ
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างชัดเจน
- ทำให้ผิวรู้สึกสะอาด เรียบเนียน
- เกลือมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรก เหมาะกับผิวมัน
ข้อควรระวังของการสครับผิวขาวด้วยเกลือ
- ไม่ควรใช้เกลือที่หยาบหรือมีเม็ดใหญ่เกินไป เพราะอาจทำให้ผิวเกิดรอยถลอก
- ไม่ควรสครับผิวขาวบ่อยเกินไป แนะนำ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ
- ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีแผลไม่ควรใช้เกลือสครับผิวขาวโดยตรง เพราะอาจทำให้แสบหรือระคายเคือง
วิธีสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
น้ำตาลเป็นสครับผิวขาวจากธรรมชาติที่มีเม็ดเล็ก ละลายง่าย จึงอ่อนโยนต่อผิวกว่าการใช้เกลือ เหมาะสำหรับผิวทั่วไปและผิวบอบบาง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูสดใสขึ้น
วิธีทำการสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
ส่วนผสมที่ใช้ในการสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
- น้ำตาลทรายละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้งหรือน้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
1.ผสมส่วนผสมให้เข้ากันจนได้เนื้อสครับ
2.อาบน้ำล้างผิวให้สะอาดและหมาดเล็กน้อย
3.นำสครับผิวขาวจากน้ำตาล มาทาบริเวณผิว ขัดวนเบา ๆ ประมาณ 5 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาโลชั่นบำรุงผิวทันที
ข้อดีของการสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
- สครับผิวขาวด้วยน้ำตาล เนื้อเม็ดเล็ก ไม่บาดผิว
- ให้ความชุ่มชื้นเมื่อผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมัน
- เหมาะกับการใช้บ่อยกว่าสครับเกลือ
ข้อควรระวังของการสครับผิวขาวด้วยน้ำตาล
- ไม่ควรขัดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแดง
- จำกัดการสครับผิวขาวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันผิวแห้ง
วิธีสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
การเลือกใช้สครับผิวขาวด้วยกาแฟนั้นมีข้อดีมากมายเพราะ กากกาแฟมีลักษณะเป็นเม็ดละเอียด จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่สะสมอยู่บนชั้นผิวออกไปได้ดี ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้กาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ และคาเฟอีนที่มีในกาแฟยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
ส่วนผสมที่ใช้ในการสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
- กากกาแฟ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้งหรือน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความชุ่มชื้น)
ขั้นตอนการทำสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
1.ผสมกากกาแฟกับน้ำผึ้งและนมสดให้เข้ากัน
2.อาบน้ำล้างผิวให้สะอาดและเช็ดหมาดเล็กน้อย
3.นำสครับกาแฟมาทาบนผิว ขัดวนเบา ๆ ประมาณ 5-10 นาที โดยเน้นบริเวณที่ผิวหยาบกร้าน เช่น ข้อศอก หัวเข่า
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาครีมบำรุงผิว
ข้อดีของการสครับผิวขาวด้วยกาแฟ
- ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟช่วยลดความหมองคล้ำ
- คาเฟอีนช่วยให้ผิวดูกระชับและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
วิธีสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
ทำไมต้องใช้โยเกิร์ตและน้ำผึ้งในการสครับผิวขาว
• โยเกิร์ต มีกรดแลคติกตามธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำร้ายผิว และช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มชุ่มชื้น
• น้ำผึ้ง เป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Natural Humectant) ที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว ลดการระคายเคือง และทำให้ผิวดูสุขภาพดี
เมื่อใช้ทั้งสองสูตรร่วมกัน จึงได้ทั้งการผลัดเซลล์ผิวเก่าและการเติมความชุ่มชื้นไปพร้อมกัน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวบอบบาง
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
ส่วนผสมที่ใช้ในการสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มการขัดอย่างอ่อนโยน)
ขั้นตอนการสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
1.ผสมโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และข้าวโอ๊ตให้เข้ากันจนเป็นเนื้อสครับ
2.ล้างผิวให้สะอาดและเช็ดพอหมาด
3.ทาสครับลงบนผิว นวดวนเบา ๆ ประมาณ 5 นาที
4.ทิ้งไว้บนผิวสัก 3-5 นาที เพื่อให้โยเกิร์ตและน้ำผึ้งซึมเข้าสู่ผิว
5.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วบำรุงผิวต่อด้วยโลชั่นหรือครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ข้อดีของการสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
- เนื้อสครับอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและเติมความชุ่มชื้นในขั้นตอนเดียว
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย
ข้อควรระวังในการสครับผิวขาวด้วยโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
- ควรใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติเท่านั้น ไม่ใช้ชนิดที่มีน้ำตาลหรือกลิ่นผสม
- ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรทำบ่อยเกินไป
- หากมีอาการแพ้หรือผื่นแดง ควรหยุดใช้ทันที
วิธีสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
ทำไมต้องใช้ขมิ้นสครับผิวขาว
ขมิ้นเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมใช้ในการดูแลผิวมานาน มีสารสำคัญชื่อ เคอร์คูมิน (Curcumin) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ เมื่อใช้ร่วมกับการสครับผิวขาว จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก พร้อมบำรุงให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ไม่ทำลายสมดุลผิว
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
ส่วนผสมในการทำสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
• ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนในการทำสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
1.ผสมผงขมิ้น น้ำผึ้ง และนมสดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อข้น
2.ล้างผิวให้สะอาดและเช็ดพอหมาด
3.ทาสครับผิวขาวลงบนผิว แล้วนวดวนเบา ๆ ประมาณ 5-10 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และตามด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อรักษาความชุ่มชื้น
ข้อดีของการสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดี
- สูตรธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใช้สารเคมีรุนแรง
ข้อควรระวังในการสครับผิวขาวด้วยขมิ้น
- ขมิ้นอาจทิ้งคราบเหลืองบนผิว ควรล้างออกให้สะอาด
- ผู้ที่มีผิวบอบบางควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทาบริเวณข้อพับแขน 10-15 นาที
- ควรทำสครับผิวขาวเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรบ่อยเกินไป
วิธีสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
การใช้สครับผิวขาวด้วยมะขามเปียกจะมีกรดผลไม้อ่อน ๆ ตามธรรมชาติ (AHA) ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น อีกทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวแลดูเปล่งปลั่ง และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น
วิธีทำสครับสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
ส่วนผสมในการทำสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
- เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนในการทำสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
1.แช่มะขามเปียกในน้ำอุ่นเล็กน้อย จากนั้นคั้นเอาเนื้อออกมา
2.ผสมกับนมสดและน้ำผึ้งให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมข้น
3.ล้างผิวให้สะอาดแล้วซับพอหมาด
4.ทาสครับลงบนผิว นวดวนเบา ๆ ประมาณ 5 นาที
5.ทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อให้กรดผลไม้และวิตามินทำงาน
6.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาโลชั่นบำรุงทันที
ข้อดีของสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน
- วิตามินซีช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส
- ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและดูสม่ำเสมอขึ้น
ข้อควรระวังในการทำสครับผิวขาวด้วยมะขามเปียก
• มะขามมีความเป็นกรด หากใช้ในปริมาณมากหรือทิ้งไว้นานเกินไป อาจทำให้ผิวแสบหรือระคายเคือง
• ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทาที่ท้องแขนและสังเกตอาการ
• ไม่ควรทำบ่อยเกินไป แนะนำเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์
วิธีสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ต
การทำสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ตมีข้อดีหลายอย่าง เพราะข้าวโอ๊ตมีเนื้อเนียนละเอียด อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการระคายเคือง และเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ต
• ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
ขั้นตอนทำสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ต
1.ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2.ล้างผิวให้สะอาด แล้วทาสครับลงบนผิว
3.นวดวนเบา ๆ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4.ทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
ข้อดีของสครับผิวขาวด้วยข้าวโอ๊ต
• เนื้ออ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
• ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและดูสดใสขึ้น
วิธีสครับผิวขาวด้วยผงถ่าน
ผงถ่าน (Activated Charcoal) มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินออกจากผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวหมองคล้ำ
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยผงถ่าน
• ผงถ่าน 1 ช้อนชา
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่าเล็กน้อย
ขั้นตอนสครับผิวขาวด้วยผงถ่าน
1.ผสมผงถ่าน น้ำผึ้ง และน้ำให้เข้ากันจนเป็นเนื้อสครับ
2.ล้างผิวให้สะอาด แล้วทาสครับลงบนผิว
3.นวดวนเบา ๆ ประมาณ 3-5 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วบำรุงผิวต่อด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ข้อดีในการสครับผิวขาวด้วยผงถ่าน
- ช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง
- ลดความมันส่วนเกิน
วิธีสครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
สมุนไพรไทย เช่น ขมิ้น ไพล มะขามเปียก และว่านนางคำ มีสารต้านอนุมูลอิสระและกรดผลไม้อ่อน ๆ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน พร้อมบำรุงให้ผิวดูกระจ่างใส
วิธีทำสครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
- ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนทำสครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
1.ผสมสมุนไพรทั้งหมดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อสครับ
2.ล้างผิวให้สะอาด แล้วทาลงบนผิว
3.นวดวนเบา ๆ ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก
4.บำรุงผิวต่อด้วยครีมหรือโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
ข้อดีของการทำสครับผิวขาวด้วยสมุนไพร
- อ่อนโยน ปลอดภัย ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
- ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและแลดูกระจ่างใสขึ้น
การบำรุงผิวหลังการสครับผิวขาว
หลังการสครับผิวขาว เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วจะถูกผลัดออกไป ทำให้ผิวใหม่ที่บอบบางกว่าถูกเผยออกมา แม้ผิวจะดูสดใสขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียน้ำและระคายเคืองง่าย ดังนั้น การบำรุงหลังการสครับผิวขาวจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิว
ขั้นตอนการบำรุงผิวหลังสครับผิวขาว
1.เติมความชุ่มชื้นทันที
• ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ โลชั่น หรือน้ำมันบำรุงผิวที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูโรนิกแอซิด กลีเซอรีน เชียบัตเตอร์ หรือน้ำมันมะกอก
• ทาภายใน 5 นาทีหลังอาบน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในผิว
2.เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
• เลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอมแรง หรือสารเคมีรุนแรง
• หากเป็นผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า เหมาะกับผิวบอบบาง (Hypoallergenic)
3.ปกป้องผิวจากแสงแดด
• หลังสครับผิวขาว ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
• เลือกกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีการปกป้องทั้ง UVA/UVB
4.ดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว
• การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นจากภายใน
• เลือกทานผัก ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
ข้อควรระวังในการสครับผิวขาว
• หลีกเลี่ยงการใช้สครับซ้ำทันที ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-4 วัน
• ไม่ควรใช้ครีมที่มีกรดผลไม้แรง ๆ (เช่น AHA, BHA) ร่วมทันทีหลังสครับ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับการสครับผิวขาว
การสครับผิวขาว เป็นอีกหนึ่งในวิธีดูแลผิวให้กระจ่างใส แต่ต้องเลือกสูตรให้เข้ากับผิวของเรา ไม่ควรขัดผิวบ่อยเกินไป และต้องบำรุงผิวหลังการสครับผิวด้วย เพื่อผิวที่เปล่งประกายดูสุขภาพดี
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ