สิวหัวขาว คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร กดสิวเองได้ไหม กี่วันหายผิวเรียบเนียน
สิวหัวขาว
สิวหัวขาว คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร กดสิวเองได้ไหม กี่วันหาย
สิวหัวขาวคืออะไร เกิดจากอะไร กดเองได้ไหม กี่วันหาย
ปัญหาสิวเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะสิวหัวขาว ที่เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดการอักเสบในทันที แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้ ปัญหาสิวหัวขาวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย สิวหัวขาวยังสามารถเกิดขึ้นซ้ำซาก ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์ของบุคคล
ดังนั้นการทำความเข้าใจว่า สิวหัวขาวคืออะไร สาเหตุของสิวหัวขาว วิธีรักษาสิวหัวขาว และวิธีป้องกันที่ถูกต้อง จะช่วยให้สามารถดูแลผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซากได้ในระยะยาว เราจึงรวบรวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสิวหัวขาวไว้ในบทความนี้
สิวหัวขาวคืออะไร
สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตัน จากน้ำมันส่วนเกินหรือซีบัม (Sebum) เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก โดยที่รูขุมขนนั้นปิดอยู่ ทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวใต้ผิวหนัง
ลักษณะของสิวหัวขาว
• สิวหัวขาวเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเนื้อ
• สิวหัวขาวไม่มีการอักเสบหรือบวมแดง
• สิวหัวขาวมักพบบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก แก้ม คาง และจมูก
• สิวหัวขาวอาจพบที่หลังและหน้าอกได้เช่นกัน
สิวหัวขาวเกิดจากอะไร
สาเหตุของสิวหัวขาวมีหลายปัจจัยที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ซึ่งส่งผลให้เกิดสิวประเภทนี้ขึ้น โดยสามารถแบ่งออกเป็นสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้
1.สิวหัวขาวเกิดจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันหรือซีบัม (Sebum) มากเกินไป ทำให้น้ำมันที่มากเกินไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวหัวขาว
2.สิวหัวขาวเกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ผิวของเรามีการผลัดเซลล์ผิวตลอดเวลา ถ้าเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ถูกกำจัดออกไป อาจรวมตัวกับน้ำมันและอุดตันรูขุมขน
3.สิวหัวขาวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการผลิตน้ำมัน ช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจึงส่งผลให้เกิดสิวหัวขาวได้ เช่น
• สิวหัวขาวในช่วงวัยรุ่น - ต่อมไขมันเริ่มทำงานมากขึ้น
• สิวหัวขาวในช่วงมีประจำเดือน - ฮอร์โมนแปรปรวน
• สิวหัวขาวในช่วงตั้งครรภ์ หรือ ใช้ยาคุมกำเนิด - อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมัน
4.สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน
• สิวหัวขาวเกิดจากการใช้เครื่องสำอาง สกินแคร์ และครีมกันแดดบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้
• สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนัก เช่น ออยล์ หรือ ซิลิโคน อาจอุดตันรูขุมขน
• ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า Non-comedogenic เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาว
5.สิวหัวขาวเกิดจากการทำความสะอาดผิวไม่เหมาะสม
• สิวหัวขาวเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด ทำให้สิ่งสกปรกและน้ำมันสะสม
• สิวหัวขาวเกิดจากการล้างหน้าบ่อยเกินไป ทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น
• สิวหัวขาวเกิดจากการไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอน ทำให้รูขุมขนอุดตัน
6.สิวหัวขาวเกิดจากเหงื่อและความชื้น
• เหงื่อที่สะสมบนผิว โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย สามารถอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดสิวหัวขาว
• หากไม่ได้ล้างหน้าหรืออาบน้ำหลังเหงื่อออก อาจทำให้เกิดสิวหัวขาวจนเป็นสิวอักเสบได้
7.สิวหัวขาวเกิดจากอาหารและพฤติกรรมการกิน
• อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน ขนมปังขาว อาจกระตุ้นให้เกิดสิวหัวขาว
• นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนม อาจทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุลและกระตุ้นสิวหัวขาว
• อาหารแปรรูปและของทอด อาจทำให้ผิวมีการอักเสบ อุดตันง่ายขึ้น และเกิดสิวหัวขาว
8.สิวหัวขาวเกิดจากความเครียด
ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นและเกิดสิวได้ง่าย
9.สิวหัวขาวเกิดจากพันธุกรรม
ถ้าพ่อแม่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ลูกก็อาจมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่ายขึ้น ทั้งสิวอุดตันอย่างสิวหัวขาวจนถึงสิวอักเสบ
10.สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ยาบางชนิด
• สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroids)
• สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด
• สิวหัวขาวเกิดจากการใช้ยาที่มีส่วนผสมของลิเทียม (Lithium) และไอโอดีน (Iodine)
สิวหัวขาวพบบ่อยบริเวณใด
สิวหัวขาวสามารถเกิดขึ้นได้บนหลายส่วนของร่างกาย แต่พบบ่อยที่สุดในบริเวณที่มีต่อมไขมันทำงานมาก ดังนี้
1.สิวหัวขาวที่ใบหน้า
สิวหัวขาวที่ใบหน้าเป็นบริเวณที่พบมากที่สุด เพราะผิวหน้ามีต่อมไขมันจำนวนมาก ทำให้เป็นจุดที่สิวหัวขาวมักขึ้นบ่อย ได้แก่
• สิวหัวขาวที่หน้าผาก - มีแนวโน้มเกิดสิวจากความมันและเหงื่อสะสม
• สิวหัวขาวที่จมูก - รูขุมขนกว้างและมีน้ำมันมาก ทำให้อุดตันง่าย
• สิวหัวขาวที่แก้ม - อาจเกิดจากการสัมผัสใบหน้า ใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด หรือปลอกหมอนที่ไม่ได้ซักบ่อย
• สิวหัวขาวที่คาง - มักเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและการใช้มือสัมผัสใบหน้า
• สิวหัวขาวรอบริมฝีปาก - การใช้ลิปบาล์มหรือเครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขนอาจทำให้เกิดสิว
2.สิวหัวขาวที่หลัง
สิวหัวขาวสามารถเกิดขึ้นที่แผ่นหลัง เนื่องจากมีต่อมไขมันและเหงื่อสะสม โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำและไม่รีบอาบน้ำหลังจากมีเหงื่อออก
3.สิวหัวขาวที่หน้าอก
บริเวณหน้าอกมีต่อมไขมันจำนวนมาก และเหงื่อที่สะสมอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้
4.สิวหัวขาวที่ไหล่
การเสียดสีจากเสื้อผ้า สายกระเป๋า หรืออุปกรณ์กีฬา อาจทำให้สิวหัวขาวเกิดขึ้นได้
5.สิวหัวขาวที่ต้นแขน
บางคนอาจพบสิวหัวขาวที่ต้นแขน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นขุย ซึ่งอาจเกิดจากภาวะรูขุมขนอุดตัน
วิธีรักษาสิวหัวขาวอย่างไรให้หาย
สิวหัวขาวเกิดจากรูขุมขนอุดตันจากน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก หากดูแลและรักษาไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดสิวอักเสบหรือรอยแผลเป็นได้ ต่อไปนี้เป็นแนวทางการรักษาสิวหัวขาวด้วยตัวเองที่แนะนำ
1.รักษาสิวหัวขาวด้วยการทำความสะอาดผิวให้หมดจด
• ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) ด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ไม่รุนแรง และ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
• หลีกเลี่ยงสบู่ที่แรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง และกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
• หากแต่งหน้า ควรใช้คลีนซิ่ง (Cleansing Oil, Micellar Water) เพื่อขจัดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า
แนะนำส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว
• Salicylic Acid (BHA) - ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่อุดตัน
• Tea Tree Oil - มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดความมัน
2.รักษาสิวหัวขาวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
• ควรผลัดเซลล์ผิว 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน
• หลีกเลี่ยงการใช้ สครับที่หยาบเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
• กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid, BHA) - ช่วยละลายไขมันในรูขุมขน ลดการอุดตัน
• กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid, AHA) - ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว
• เรตินอยด์ (Retinoids) - ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน
3.รักษาสิวหัวขาวด้วยการใช้ยาแต้มสิว
หากมีสิวหัวขาวจำนวนมาก อาจใช้ยาแต้มสิวที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
แนะนำยาแต้มสิวที่มีประสิทธิภาพ
• Benzoyl Peroxide - ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ
• Adapalene - เป็นเรตินอยด์ที่ช่วยลดการอุดตัน
• Niacinamide - ลดการอักเสบและควบคุมความมัน
ข้อควรระวัง
• ควรทายาแต้มสิวเฉพาะจุด วันละ 1-2 ครั้ง
• หากใช้เรตินอยด์ อาจทำให้ผิวแห้งและลอก ควรใช้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ควบคู่กัน
4.รักษาสิวหัวขาวด้วยการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
• แม้ว่าจะเป็นคนผิวมัน ก็ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อรักษาสมดุลของผิว
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่มีน้ำมัน (Oil-Free) และ Non-Comedogenic
ส่วนผสมที่ช่วยลดสิวหัวขาว
• Hyaluronic Acid - เพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวมัน
• Centella Asiatica (ใบบัวบก) - ลดการอักเสบของผิว
• Niacinamide - ลดรอยแดง และช่วยควบคุมความมัน
5.รักษาสิวหัวขาวด้วยการใช้ครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน
• การไม่ทาครีมกันแดด อาจทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น และทำให้สิวแย่ลง
• ควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา , Oil-Free และ Non-Comedogenic
แนะนำกันแดดสำหรับคนเป็นสิว
• ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen - ลดโอกาสอุดตัน
• ครีมกันแดดแบบเจล หรือ โลชั่นบางเบา - ไม่เหนียวเหนอะหนะ
6.รักษาสิวหัวขาวด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้สิวแย่ลง
• อย่าบีบหรือแกะสิว อาจทำให้สิวติดเชื้อและเกิดแผลเป็น
• หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินไป ผิวแห้งเกินไปอาจกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น
• เปลี่ยนปลอกหมอนและทำความสะอาดโทรศัพท์เป็นประจำ เพื่อป้องกันแบคทีเรียสะสม
7.รักษาสิวหัวขาวด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน
หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นสิว เช่น
• อาหารที่มีน้ำตาลสูง (ขนมหวาน, น้ำอัดลม)
• นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนม มีฮอร์โมนที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว
• อาหารมันและของทอด
รับประทานอาหารที่ช่วยลดสิว
• ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีและอี ช่วยลดการอักเสบ
• ดื่มน้ำมากๆ ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
• โอเมก้า-3 (Omega-3) ช่วยลดการอักเสบของผิว
8.รักษาสิวหัวขาวด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
• นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียดที่กระตุ้นให้เกิดสิว
• ออกกำลังกายและลดความเครียด ป้องกันสิวที่เกิดจากฮอร์โมน
แนะนำโปรแกรมรักษาสิว รมย์รวินท์ คลินิก
รมย์รวินท์คลินิกมีโปรแกรมรักษาสิวที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสิวของแต่ละบุคคล ขอแนะนำโปรแกรมรักษาสิวที่ได้รับความนิยม ดังนี้
1.เลเซอร์รักษาสิว AviClear
AviClear เป็นโปรแกรมเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร เพื่อรักษาสิวโดยตรงที่ต้นเหตุ เลเซอร์นี้ทำงานกับต่อมไขมันบริเวณรูขุมขนที่อยู่ใต้ผิวหนังลึกประมาณ 0.5 - 1.5 มิลลิเมตร ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว ทำให้ปัญหาสิวลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของ AviClear
• เลเซอร์รักษาสิว AviClear ช่วยรักษาสิวได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูง
• เลเซอร์รักษาสิว AviClear ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้สิวลดลง
• เลเซอร์รักษาสิว AviClear เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนัง
2.เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser
Accure Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ โดยเลเซอร์จะเจาะจงทำลายต่อมไขมันที่ทำงานผิดปกติ ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน และช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
ข้อดีของ Accure Laser
• เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
• เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser ช่วยลดการอักเสบของสิว
• เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
3.โปรแกรมรักษาสิว AC Clear
AC Clear เป็นโปรแกรมรักษาสิวที่ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก เพื่อจัดการปัญหาสิวอย่างครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตันและสิวอักเสบ
4 ขั้นตอนของ AC Clear
1.กดสิว นำหัวสิวออกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อลดการอุดตันและป้องกันการอักเสบ
2.ฉีดสิว ฉีดยาเฉพาะที่เพื่อลดการอักเสบและบวมแดงของสิว
3.ทรีตเมนต์ ทำความสะอาดผิวและฆ่าเชื้อสิว ลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
4.มาส์ก ปลอบประโลมผิวและฟื้นฟูสภาพผิวหลังการรักษา
ข้อดีของ AC Clear
• โปรแกรมรักษาสิว AC Clear ช่วยรักษาสิวได้ถึงต้นตอของปัญหา
• โปรแกรมรักษาสิว AC Clear ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและลดการเกิดสิวใหม่
• โปรแกรมรักษาสิว AC Clear มีขั้นตอนการรักษาไม่ทำลายผิวและไม่มีการเลี้ยงไข้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว เช่น สิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้าง สิวอุดตัน สิวหัวขาว และสิวหัวดำ สามารถปรึกษาแพทย์ที่ รมย์รวินท์ คลินิก แพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เพื่อเลือกโปรแกรมรักษาสิวที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพตอบโจทย์กับความต้องการ
สิวหัวขาวกดเองได้ไหม
คำตอบคือไม่แนะนำให้กดสิวหัวขาวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นได้ หากกดสิวผิดวิธี หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด
อันตรายจากการกดสิวหัวขาวเอง
• กดสิวหัวขาวเองทำให้เสี่ยงติดเชื้อ หากใช้นิ้วมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาด อาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิวและทำให้สิวอักเสบ
• กดสิวหัวขาวเองอาจทำให้สิวอักเสบหนักขึ้น การกดแรง ๆ อาจทำให้รูขุมขนแตก และสิ่งสกปรกกระจายไปบริเวณรอบๆ ทำให้เกิดสิวใหม่
• กดสิวหัวขาวเองอาจทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ และหลุมสิว เพราะผิวได้รับบาดเจ็บจากการกดสิวผิดวิธี
สิวหัวขาวหายเองได้ไหม
คำตอบคือสิวหัวขาวสามารถหายเองได้ แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว การดูแลผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากกดสิวหัวขาวแบบผิดวิธีเพื่อให้หายเอง อาจทำให้สิวเกิดการอักเสบและมีปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา เช่น รอยดำ รอยแดง หลุมสิว และแผลเป็นจากสิว ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิวหัวขาวอย่างเหมาะสม
สิวหัวขาวใช้เวลากี่วันถึงจะหาย
โดยทั่วไป สิวหัวขาวสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางกรณีอาจใช้เวลานานถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้
• ขนาดของสิว - ถ้าหัวสิวเล็ก อาจหายเร็วภายใน 7-14 วัน แต่ถ้าสิวฝังลึก อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์
• การดูแลผิว - หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น BHA หรือ Retinol อาจทำให้สิวหลุดออกเร็วขึ้น
• การอักเสบของสิว - ถ้าสิวมีการอักเสบ อาจเปลี่ยนเป็น สิวอักเสบ และใช้เวลานานกว่าจะหาย
• พฤติกรรมการดูแลผิว - ถ้าล้างหน้าไม่สะอาด ใช้เครื่องสำอางที่อุดตันผิว หรือจับใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้สิวอยู่ได้นานขึ้น
สิวหัวขาวส่งผลเสียอะไรบ้าง
แม้ว่าสิวหัวขาวจะไม่รุนแรงเท่าสิวอักเสบ แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลเสียต่อผิวพรรณและสุขภาพจิตได้ในหลายๆ ด้าน ดังนี้
1.สิวหัวขาวส่งผลเสียต่อผิวพรรณ
1.1 สิวหัวขาวอาจกลายเป็นสิวอักเสบ
• หากสิวหัวขาวไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้
• การอักเสบอาจเกิดจากการบีบสิว การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือสิวอุดตันลึก
1.2 สิวหัวขาวทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็น
• หากแกะหรือบีบสิวอาจทำให้เกิดรอยดำ
• บางรายอาจเกิดหลุมสิวซึ่งรักษายาก
1.3 สิวหัวขาวทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
หากมีสิวหัวขาวเรื้อรัง อาจทำให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น และทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน
1.4 สิวหัวขาวทำให้เกิดสิวซ้ำซาก
• สิวหัวขาวที่ไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ปัญหาสิวเรื้อรัง
• หากรูขุมขนอุดตันซ้ำ ๆ อาจต้องใช้เวลาและการรักษาที่ซับซ้อนขึ้น
2.สิวหัวขาวส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ
2.1 สิวหัวขาวทำให้ขาดความมั่นใจ
• ปัญหาสิวบนใบหน้าอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจในตัวเอง
• บางคนอาจรู้สึกไม่อยากเข้าสังคม หรือ รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง
2.2 สิวหัวขาวส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต
• คนที่เป็นสิวเรื้อรัง อาจเกิดความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า
• มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีปัญหาสิวอาจมีแนวโน้มเกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลสูงขึ้น
3.สิวหัวขาวส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
3.1 สิวหัวขาวส่งผลกระทบต่อการแต่งหน้า
• คนที่มีสิวหัวขาวเยอะ อาจต้องใช้รองพื้นหรือเครื่องสำอางปกปิด ซึ่งอาจทำให้สิวอุดตันหนักขึ้น
• การแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สิวลุกลาม
3.2 สิวหัวขาวทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสิว
หากปล่อยให้สิวหัวขาวลุกลามจนเป็นสิวอักเสบ อาจต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา ด้วยยารักษาสิว เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์
4.สิวหัวขาวเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากกดสิวผิดวิธี
• การกดสิวหัวขาวที่ไม่สะอาด อาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิว และทำให้สิวอักเสบ
• ในบางกรณี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง
สิวหัวขาว กับ สิวหัวดำ ต่างกันยังไง
สิวหัวขาวและสิวหัวดำเป็นประเภทของสิวอุดตัน เกิดจากน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก อุดตันรูขุมขนเช่นเดียวกัน แต่มีลักษณะที่แตกต่างกันดังนี้
|
สิวหัวขาว (Whiteheads) |
สิวหัวดำ (Blackheads) |
ลักษณะ |
ตุ่มเล็ก ๆ สีขาวใต้ผิวหนัง |
จุดดำหรือจุดสีน้ำตาลบนผิว |
สาเหตุหลัก |
รูขุมขนอุดตันและปิดสนิท |
รูขุมขนอุดตันแต่เปิดอยู่ |
กระบวนการเกิด |
น้ำมันและสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนโดยที่อากาศเข้าไม่ถึง |
ไขมันและสิ่งสกปรกสัมผัสอากาศ ทำให้เกิดออกซิเดชันและเปลี่ยนเป็นสีดำ |
ความเสี่ยงต่อการอักเสบ |
มีโอกาเป็นสิวอักเสบ ถ้ารูขุมขนอุดตันมากขึ้น |
โดยทั่วไปไม่อักเสบ แต่สามารถเป็นสิวอักเสบได้หากติดเชื้อ |
บริเวณที่พบบ่อย |
ใบหน้า (หน้าผาก, จมูก, คาง, แก้ม), หน้าอก, หลัง |
ใบหน้า (โดยเฉพาะจมูก), แผ่นหลัง, ไหล่ |
กดออกง่ายหรือไม่ |
กดยากกว่าสิวหัวดำ เพราะหัวสิวอยู่ใต้ผิวหนัง |
กดออกได้ง่ายกว่า เนื่องจากหัวสิวเปิดและสัมผัสอากาศ |
ระยะเวลาหาย |
ใช้เวลาหลายวันถึง 2 สัปดาห์ หากไม่อักเสบ |
อาจอยู่ได้นาน หากไม่กำจัดออก |
จากตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สิวหัวขาว กับ สิวหัวดำ สรุปได้ว่า
• สิวหัวขาว คือ สิวอุดตันที่รูขุมขนปิด มองเห็นเป็นตุ่มสีขาวหรือสีเนื้อ
• สิวหัวดำ คือ สิวอุดตันที่รูขุมขนเปิด อากาศทำให้ไขมันกลายเป็นสีดำ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวซ้ำซาก
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น BHA, AHA, Retinoids
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการเลือกใช้สกินแคร์และครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-Comedogenic)
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงน้ำตาลสูง นมวัว และอาหารทอด
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ และลดความเครียด
• ป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวด้วยการปรึกษาแพทย์ เพื่อการรักษาที่เหมาะสม หากเป็นสิวเรื้อรัง
สรุปเกี่ยวกับสิวหัวขาว
สรุปได้ว่า สิวหัวขาวเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน และอาจทำให้เกิดสิวอักเสบ รอยดำ หรือรูขุมขนกว้างขึ้นได้ ส่งผลเสียต่อผิวพรรณและความมั่นใจ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม วิธีการรักษาสิวหัวขาวมีหลากหลาย เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม การผลัดเซลล์ผิวด้วย BHA / AHA การใช้ยาแต้มสิว การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
รวมถึงนวัตกรรมรักษาสิว เช่น AviClear, Accure Laser และโปรแกรม AC Clear ที่เหมาะกับการรักษาสิวตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงระยะรุนแรง โดยเฉพาะหากสิวหัวขาวเกิดขึ้นซ้ำซากหรือมีจำนวนมาก แนะนำปรึกษาแพทย์ที่ รมย์รวินท์ คลินิก เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
* เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
แนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับบริการ
เพื่อความชัวร์และได้สิทธิ์ที่คุ้มที่สุดค่ะ